ร้านเฟอร์นิเจอร์ Art Van ที่ล้มละลาย 27 แห่ง ถูก “ขาย” ไปด้วยมูลค่า 6.9 ล้านดอลลาร์

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม Loves Furniture ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ ได้ประกาศว่าบริษัทได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ 27 แห่ง พร้อมทั้งสินค้าคงคลัง อุปกรณ์ และทรัพย์สินอื่นๆ ของร้านค้าปลีกเหล่านั้นในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม

ตามข้อมูลในเอกสารของศาล มูลค่าธุรกรรมการซื้อกิจการครั้งนี้อยู่ที่เพียง 6.9 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ร้านค้าที่เข้าซื้อกิจการเหล่านี้ดำเนินงานภายใต้ชื่อ Art Van Furniture หรือบริษัทในเครือ Levin Furniture และ Wolf Furniture

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม บริษัท อาร์ต วัน ได้ประกาศล้มละลายและยุติการดำเนินงาน เนื่องจากไม่สามารถทนต่อแรงกดดันอันหนักหน่วงจากการแพร่ระบาดของโรคได้

บริษัทผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์อายุ 60 ปีรายนี้มีร้านค้า 194 แห่งใน 9 รัฐและยอดขายประจำปีมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้กลายเป็นบริษัทเฟอร์นิเจอร์ที่มีชื่อเสียงแห่งแรกในโลกภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดซึ่งจุดชนวนให้อุตสาหกรรมการตกแต่งบ้านทั่วโลกตื่นตัว มันน่าตกใจมาก!

Matthew Damiani ซีอีโอของ Loves Furniture กล่าวว่า “สำหรับบริษัทของเรา พนักงานทุกคน และการให้บริการชุมชน การเข้าซื้อกิจการร้านเฟอร์นิเจอร์ในภูมิภาคตะวันตกกลางและมิดแอตแลนติกของเราถือเป็นก้าวสำคัญ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ลูกค้าของตลาดนำเสนอบริการค้าปลีกรูปแบบใหม่เพื่อให้พวกเขาได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ทันสมัยยิ่งขึ้น”

Loves Furniture ก่อตั้งโดย Jeff Love ผู้ประกอบการและนักลงทุนเมื่อต้นปี 2020 เป็นบริษัทค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านน้องใหม่ซึ่งมุ่งมั่นสร้างวัฒนธรรมการให้บริการที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางและมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบเฉพาะบุคคล ต่อไปนี้ บริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์และที่นอนใหม่เอี่ยมสู่ตลาดในเร็วๆ นี้เพื่อเพิ่มความนิยมของบริษัทใหม่

Bed Bath & Beyond ทยอยกลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง

Bed Bath & Beyond ผู้ค้าปลีกสิ่งทอภายในบ้านรายใหญ่เป็นอันดับสองของสหรัฐฯ ซึ่งได้รับความสนใจจากบริษัทการค้าต่างประเทศเป็นอย่างมาก ประกาศว่าจะกลับมาดำเนินกิจการในร้านค้า 20 แห่งอีกครั้งในวันที่ 15 พฤษภาคม และร้านค้าที่เหลือส่วนใหญ่จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งภายในวันที่ 30 พฤษภาคม

บริษัทได้เพิ่มจำนวนร้านค้าที่ให้บริการรับสินค้าข้างทางเป็น 750 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังคงขยายศักยภาพการขายทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่าช่วยให้สามารถจัดส่งสินค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์ได้เสร็จภายในเวลาเฉลี่ย 2 วันหรือเร็วกว่านั้น หรือให้ลูกค้าที่ใช้บริการรับสินค้าที่ร้านหรือที่สั่งซื้อทางออนไลน์ได้รับสินค้าภายในไม่กี่ชั่วโมง

มาร์ก ทริตตัน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “ความยืดหยุ่นทางการเงินและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งของเราทำให้เราสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างระมัดระวังในแต่ละตลาด เราจะเปิดประตูต้อนรับสาธารณชนก็ต่อเมื่อเราเห็นว่าปลอดภัยเท่านั้น”

เราจะบริหารจัดการต้นทุนและติดตามผลลัพธ์อย่างรอบคอบ ขยายการดำเนินงานของเรา และช่วยให้เราสามารถพัฒนาศักยภาพด้านออนไลน์และการจัดส่งอย่างมีกลยุทธ์ต่อไปได้ โดยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ Omnichannel และสม่ำเสมอให้กับลูกค้าที่ภักดีของเรา”

ยอดขายปลีกในอังกฤษร่วงลง 19.1% ในเดือนเมษายน ถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 25 ปี

ยอดขายปลีกในอังกฤษลดลง 19.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเมษายน ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีการสำรวจครั้งแรกในปี 2538

สหราชอาณาจักรสั่งปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่เมื่อปลายเดือนมีนาคม และสั่งให้ผู้คนอยู่บ้านเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

BRC กล่าวว่าในช่วงสามเดือนที่สิ้นสุดในเดือนเมษายน ยอดขายสินค้าที่ไม่ใช่อาหารในร้านค้าลดลง 36.0% ในขณะที่ยอดขายอาหารเพิ่มขึ้น 6.0% ในช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากผู้บริโภคกักตุนสิ่งของจำเป็นระหว่างการกักตัวอยู่บ้าน

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ยอดขายออนไลน์ของสินค้าที่ไม่ใช่อาหารพุ่งสูงขึ้นเกือบ 60% ในเดือนเมษายน คิดเป็นมากกว่าสองในสามของรายจ่ายที่ไม่ใช่อาหาร

อุตสาหกรรมค้าปลีกของอังกฤษเตือนว่าแผนการช่วยเหลือที่มีอยู่ไม่เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้บริษัทจำนวนมากล้มละลาย

สมาคมผู้ค้าปลีกแห่งอังกฤษเตือนว่า แผนการช่วยเหลือในช่วงที่มีการระบาดในปัจจุบันของรัฐบาลไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้ง “การล่มสลายที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ของบริษัทต่างๆ หลายแห่ง”

สมาคมกล่าวในจดหมายที่ส่งถึงริชิ ซูแนค รัฐมนตรีคลังของอังกฤษ ว่าวิกฤตที่อุตสาหกรรมค้าปลีกกำลังเผชิญอยู่นั้นจะต้องได้รับการจัดการ "ในกรณีฉุกเฉินก่อนถึงวันจ่ายค่าเช่าไตรมาสที่สอง"

สมาคมกล่าวว่าบริษัทหลายแห่งมีกำไรเพียงเล็กน้อย มีรายได้น้อยหรือไม่มีเลยเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และเผชิญกับความเสี่ยงที่ใกล้จะเกิดขึ้น โดยเสริมว่าแม้ว่าจะยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ ไปแล้ว บริษัทเหล่านี้ก็ยังต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการฟื้นตัว

สมาคมได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมโดยด่วนเพื่อตกลงกันว่าจะลดความเสียหายทางเศรษฐกิจและการสูญเสียการจ้างงานในวงกว้างให้เหลือน้อยที่สุดด้วยวิธีที่ดีที่สุด